'พิชัย' แจงเกณฑ์แจกเงินหมื่นรอบตกหล่น สูงวัยกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพูดในเวทีปราศรัยที่ จ.อุดรธานี เกี่ยวกับการแจกเงิน 10,000 บาทให้กับผู้ที่อายุเกิน 60 ปี ว่าเรื่องนี้มาจากการที่ในเฟสที่ 1 ที่มีการแจกเงินให้กับกลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาเรื่องรายได้ ซึ่งส่วนที่เหลือนั้นก็ต้องมาดูว่าส่วนที่มีปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งต้องทำในส่วนที่ตกค้างอยู่ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินไม่มาก ซึ่งเราก็จะนำหลักการเข้าบอร์ดคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 19 พ.ย.นี้
โดยขั้นตอน และวิธีทำไม่ยากโดยกลุ่มนี้จะไม่ซ้ำกับกลุ่มเปราะบางที่ได้ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่มากคิดว่าจะไม่กี่ล้านคน ทำให้ใช้วงเงินไม่มากนักการใส่เงินที่เหมาะสมตามรูปแบบ โปรแกรมและแพลตฟอร์มดิจิทัลต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนจะมีช่องทางในการติดต่อกับรัฐอย่างถาวรผ่านระบบดิจิทัลซึ่งรูปแบบสามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามต้องการและเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องค่อยๆ ทำต่อไปไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาช่องทางแอปทางรัฐ หรือแอปอื่นๆ ตรงนั้นก็มาดูอีกที
ส่วนเมื่อถามว่ามาตรการในการลงทุนว่าต้องมีการปรับนโยบายอย่างไร หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของสหรัฐ นายพิชัย กล่าวว่า มาตรการในการลงทุนเป็นมาตรการที่จำเป็นสำหรับประเทศไทย เพราะการลงทุนของไทยนั้นแผ่วมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยปัญหาก็มาจากหลายส่วน เช่น เรื่องของหนี้ที่สูงทั้งครัวเรือน และเอสเอ็มอี ทำให้คนไม่มีเงินมาลงทุน หรือว่าเป็นเรื่องที่นโยบายยังไม่มีความชัดเจน ปัญหาเชิงโครงสร้างยังไม่ได้รับการแก้ไข อัตราดอกเบี้ยที่สูงไปหรือไม่ การส่งออกยาก ส่งออกสินค้าไปเพิ่มแต่ว่าพอส่งออกสินค้าไปกลับขาดทุน ก็ทำให้อยากได้ค่าของอัตราแลกเปลี่ยนอีกอย่างหนึ่ง
“วันนี้เราคุยกับเข้าใจแล้วในทุกเรื่องกับ ธปท. ก็มีความพร้อมที่จะผลักดัน และในเรื่องของการลงทุนก็เป็นเรื่องที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น”นายพิชัย กล่าว