อียู เลื่อนบังคับใช้มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าออกไป 12 เดือน ต่อลมหายใจ เอสเอ็มอี ผู้ส่งออก
นางอารดาเฟื่องทองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่าสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศเลื่อนบังคับใช้มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าออกไป12เดือนส่งผลให้บริษัทรายใหญ่มีระยะเวลาเตรียมความพร้อมก่อนวันที่30ธ.ค.68และเอสเอ็มอีมีระยะเวลาเตรียมความพร้อมก่อนวันที่30มิ.ย.69
ทั้งนี้มาตรการสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรปมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการซื้อสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่ารวมถึงรับมือการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าทั่วโลกทั้งที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าที่ผิดกฎหมายและจากการ
ขยายตัวทางการเกษตรซึ่งครอบคลุมสินค้าทั้งหมด7รายการได้แก่วัวไม้ปาล์มน้ำมันถั่วเหลืองกาแฟโกโก้และยางพารารวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าดังกล่าว
เดิมอียูกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่านสำหรับผู้ประกอบการในการจัดทำรายงานตรวจสอบย้อนกลับสินค้าถึงพื้นที่ที่ใช้ในการเพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยว ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่อียูกำหนดโดยผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะต้องแสดงรายงานดังกล่าว ให้กับหน่วยงานของอียูตั้งแต่วันที่30ธ.ค. 67เป็นต้นไปสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดเล็กและรายย่อยจะต้องแสดงรายงานตั้งแต่วันที่30มิ.ย.68เป็นต้นไป
นางอารดา กล่าวว่าอียูอยู่ระหว่างการประกาศข้อกำหนดเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าวในส่วนของการขยายระยะเวลาบังคับใช้ในรัฐกิจจานุเบกษาและดำเนินการปรับปรุงคู่มือการบังคับใช้ข้อกำหนดรวมถึงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการปฏิบัติตามพันธกรณีของข้อกำหนดเพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“มาตรการดังกล่าว เป็นมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีที่อียูกำหนดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้อียูสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนซึ่งหลักเกณฑ์การพิจารณาประกอบด้วยเป็นสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าเป็นสินค้าที่ถูกผลิตขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศผู้ผลิตและเป็นสินค้าที่ผู้ผลิตและส่งออกมีการจัดทำ ดีล ดิลิเจนซ์โดยการขยายระยะเวลาบังคับใช้ดังกล่าวจะเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย สามารถเตรียมความพร้อมได้”