ล่าสุด

ลิงค์ที่เป็นมิตร

“อีอีซี”ชี้จีนนักลงทุนรายใหญ่ หากไทยดึงเงินทุนไม่ได้ต้องรออีก 20 ปี

2025-02-20     HaiPress

เลขาฯ อีอีซี ชี้ เงินลงทุนไทยโตต่อเนื่องปี 67 กว่า 8. 46 แสนล้านบาท ชี้ นักลงทุนให้น้ำหนักการเข้ามาทำธุรกิจได่ง่ายในการตัดสินใจลงทุน เผยสิงคโปร์ มาเลเซีย คู่แข่งสำคัญ เร่งหนุน 5 กลุ่มสำคัญ ย้ำจีน เงินหนา ทุกชาติต่างแย่งชิง หากไทยไม่ได้ต้องรออีก 20 ปีถึงจะมีเงินลงทุนใหม่

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี เปิดเผยในงานสัมมนา ‘Trust Thailand : เชื่อมั่นประเทศไทย’ จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน ว่า การลงทุนในไทย มีการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 61 แต่มาชะลอตัวเมื่อช่วงการระบาดของโควิด-19 จนมาปี 67 ล่าสุดมีตัวเลขการลงทุน 8.46 แสนล้านบาท เป็นการลงทุนในอีอีซีครึ่งหนึ่ง ประมาณ 3.74 แสนล้านบาท โดยเป็นการลงทุนเกี่ยวเนื่องกับอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง คือ เซมิคอนดักเตอร์ โดยประเทศที่ลงทุนในอีอีซี มากที่สุด คือนักลงทุนคนไทย จำนวน  37% หากเป็นต่างชาตินั้น ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คือนักลงทุนจีน จำนวน 16% รองลงมา คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐ ยุโรป  

“หากมองในปัจจุบัน ปัจจัยที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน คือ ความง่ายในการเข้ามาทำธุรกิจ  รองลงมา ตำแหน่งพื้นที่ สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ที่นักลงทุนต่างประเทศสนใจด้วย โดยปัจจุบันคู่แข่งของไทย คือ ก็คือประเทศในอาเซียนด้วยกัน โดยหลังการแพร่ระบาดของโควิด ภูมิภาคอาเซียนมีการเข้ามาลงทุนมากที่สุดกว่าภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เพราะอาเซียนมีความน่าสนใจที่มีทั้งผู้บริโภค ผู้ผลิต และยังสามารถส่งต่อให้ประเทศอื่นได้ด้วย โดยประเทศที่ดึงลงทุนได้มากที่สุด คือสิงคโปร์ รองลงมาคืออินโดนีเซีย และไทยยังเป็นรองมาเลเซียและเวียดนาม ขณะที่ ฟิลิปปินส์ ก็กำลังหายใจรด้นคอไทยอยู่”

นายจุฬา กล่าววต่อว่า การจะดึงนักลงทุนรายใหญ่ และจะแข่งขันกับสิงคโปร์ ยังมีความยาก โดยทางอีอีซี ศึกษาแล้วพบว่า การจะดึงเงินลงทุนรายใหญ่ได้ ต้องมีหน่วยงานรัฐบาล และหน่วยงานพิเศษเข้ามาสนับสนุน โดยเฉพาะโซนพิเศษในการลงทุน หรือมีหน่วยงานกลางในการดูแลการลงทุนทั้งประเทศ และมีหน่วยงานเฉพาะมาดึงการลงทุนในพื้นที่พิเศษ และมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย และมีสิทธิพิเศษมาช่วยเติมเต็มด้วย

“ปัจจุบันอีอีซี จะใช้วิธีเจรจาดึงการลงทุนโดนมีสิทธิพิเศษไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นธุรกิจเดียวกัน อยู่ที่การเจรจาต่อรอง เช่น การเข้ามาตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ แต่ละประเทศให้สิทธิพิเศษอะไรบ้าง โดยอีอีซีจะเสนอให้เฉพาะเป็นรายๆ เพื่อให้ได้เม็ดเงินทุนได้มากที่สุด และอนุมัติการลงทุนให้เร็ว ให้ตั้งโรงงานได้ และใช้จ่ายเงินเร็วที่สุด โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 กลุ่ม เช่น การแพทย์สุขภาพ  ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ ดาต้าเซ็นเตอร์ กลุ่มอีวี และโดรน และในอนาคตจะขยายไปยังเรื่องชีวภาพ รีไซเคิลและพลังงานสะอาดด้วย ที่เป็นการลงทุนที่ใช้ในประเทศ และส่งออกได้ด้วย โดยต่างประเทศสนใจที่จะใช้ไทยเป็นฐานในภาคบริการ เช่น เรื่องเกี่ยวกับสังคมผู้สูงวัย และบริการทางการแพทย์”    

นอกจากเรื่องสิทธิประโยชน์แล้ว ทางอีอีซี จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องคน เนื่องจากการลงทุนด้านดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ ต้องเตรียมแรงงานให้พร้อม ซึ่งอีอีซีต้องจัดทำแพ็กเกจเพื่อสนับสนุน และต้องเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด น้ำไฟ และเรื่องสุดท้าย คือเรื่องกฎหมาย โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตก่อสร้างได้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินลงทุนให้เร็วที่สุด

“ตอนนี้รัฐบาลสิงคโปร์ และมาเลเซีย จับมือกันในการทำเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ยะโฮร์ เพื่อแข่งกัยอีอีซีโดยตรง รัฐบาลจึงต้องช่วยให้อีอีซี ให้แข่งขันได้อยู่ และทางอีอีซีต้องปรับกลยุทธ์ ให้รับมือแข่งขันกับคู่แข่งได้ การลงทุนเหมือนเกม ที่สามารถปรับเปลี่ยนดึงให้คนเข้ามาลงทุน โดยใน 2 ปีนี้ ประเทศที่จะมีการลงทุน และมีความจำเป็นในการลงทุนมากที่สุด คือ จีน และทุกชาติก็พยายามดึงเงินลงทุนจากจีน ไปลงทุนมากที่สุด ซึ่งหากหมดรอบ 1-2 ปีนี้ ก็จะหยุด ลงทุนรอรอบใหม่อีก 20 ปี และเมื่อนักลงทุนตัดสินใจลงทุนพื้นที่ใดแล้ว ก็จะลงทุนในพื้นที่เดียวกันเพื่อความต่อเนื่องด้วย ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่มีการลงทุนในไทยอยู่แล้ว อีอีซี ก็จะทำแพ็กเกจเสนอให้เกิดการลงทุนรอบใหม่ อย่างต่อเนื่องด้วย”

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
กลับไปด้านบน
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 อ่าวไทย [อ่าวไทย]      ติดต่อเรา   SiteMap