เอดีบี มองหนี้สูงอุปสรรคไทย ชี้เอเชียเสี่ยงหนัก การค้าสหรัฐฉุดเศรษฐกิจแย่
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประเมินเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะมีการขยายตัว 2.8% ในปี 68 และขยายตัว 2.9% ในปี 69 เป็นการคาดการณ์ก่อนสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ โดยการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่การบริโภคภาคเอกชนอาจชะลอตัวลง เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง ซึ่งส่วนหนึ่งถูกชดเชยด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน ส่วนความเสี่ยงคือหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อาจทำให้การบริโภคชะลอตัว รวมทั้งความตึงเครียดทางการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต
ทั้งนี้ เอดีบีคาดเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกจะขยายตัว 4.9% ในปีนี้ และจะลดลงอีกอยู่ที่ 4.7% ในปีหน้า ถึงแม้ว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะแข็งแกร่งและความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นจากกระแสความนิยมของเอไอ ซึ่งช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่อุปสรรคจากภาษีศุลกากรและความไม่แน่นอนด้านการค้าจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค
สำหรับความเสี่ยงต่อประมาณเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ติดตามการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐ การบังคับใช้ภาษีศุลกากรของสหรัฐ ที่ประกาศเมื่อต้นเดือน เม.ย. อย่างเต็มรูปแบบและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐ ในระยะต่อไป อาจทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจแย่ลง และยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก ขณะที่มาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และนโยบายการคลังแบบขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้อาจกระทบอัตราเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐสูงขึ้นเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน
ด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์นั้น ความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอีกครั้ง รวมถึงราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุน ขณะที่ความเสี่ยงเกี่ยวกับการยุติสงครามของรัสเซียในยูเครนยังคงมีอยู่ ส่วนความเปราะบางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีน โดยภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่แย่ลง อาจส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียที่กำลังพัฒนาอ่อนแอลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นในภูมิภาค