ไทยโคม่า หลังสหรัฐลดภาษีจีนเหลือ 30% ถูกกว่าไทย จี้รัฐบาล เหลืออีกไม่ถึง 60 วัน รีบแก้ไขด่วน ห่วงส่งออกพังทั้งกระดาน
🔊 ฟังข่าว
⏸️ หยุดชั่วคราว
🔄 เริ่มใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย การเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและจีน เกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า และการเก็บภาษีตอบโต้ของทั้ง 2 ประเทศ ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ได้สำเร็จลุล่วงแล้ว โดยทั้งสหรัฐและจีนตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งฝ่ายสหรัฐจะลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน ชั่วคราวจาก 145% เหลือ 30% ในขณะที่จีนจะลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐจาก 125% เหลือ 10%
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะจัดตั้งกลไกเพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมี เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นแกนนำ
ด้านนายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาอิสระ ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศและภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ความสำเร็จในการเจรจาของสหรัฐ และจีนนับเป็นข่าวดีของเศรษฐกิจและการค้าโลก แต่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับประเทศไทย เนื่องจากข้อตกลงลดภาษีของทั้ง 2 ประเทศน่าจะช่วยทำให้การค้าโลกคล่องตัวขึ้น โดยชาวอเมริกันสามารถซื้อสินค้าได้ถูกลง ผ่อนคลายแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ขณะที่ภาคการผลิต และส่งออกของจีนก็มีโอกาสส่งออกสหรัฐเพิ่ม เพราะภาษีลดลงมากถึง 115%
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าห่วงคือประเทศไทย เพราะตอนนี้หากเทียบภาษีแล้ว สินค้าไทยจะถูกเก็บถึง 36% สูงกว่าจีนที่เก็บเพียง 30% ดังนั้น หากพ้นช่วงชะลอขึ้นภาษีซึ่งเหลือไม่ถึง 60 วันแล้ว จะทำให้สินค้าไทยแพงกว่าจีนทันที และกระทบต่อการส่งออกไทยรุนแรง เนื่องจากสหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย สัดส่วนกว่า 18% หากไทยส่งออกไม่ได้ หรือน้อยลงก็ทำภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ที่ต้องพึ่งพาการส่งออกถึง 65% สะดุดไปด้วย
“การเจรจารัฐบาลไทยกับสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าเลย ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ รวมถึงมาตรการปราบสวมสิทธิก็ไม่ชัด ซึ่งน่ากลัวมาก เมื่อเทียบหลายประเทศที่คุยไปแล้ว อย่างอังกฤษ จีน อินเดีย คุยเสร็จแล้ว ขณะที่อีกหลาย 10 ประเทศก็กำลังเข้าคิวเจรจา ซึ่งมีทั้งอินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนามด้วย แต่ไทยตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า สถานะการเจรจาอยู่จุดใด ได้บัตรคิวแล้วหรือยัง ซึ่งเรื่องนี้ช้าไม่ได้ เพราะการค้าจะต้องมีคำสั่งซื้อล่วงหน้า ยิ่งเราช้าก็ยิ่งเสียโอกาสให้กับประเทศอื่นที่ลดภาษีได้เร็วกว่า จึงอยากให้รัฐบาลรีบทำให้เร็วและชัดเจน”