พาณิชย์ ชงมาตรการใหญ่ อคส. อตก. ธกส. ตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือก 3 ล้านตัน รับข้าวนาปีทะลัก 26.9 ล้านตัน หวังดึงราคาไม่ให้ตกต่ำ พร้อมเลื่อนเปิดโครงการยา ไปเป็น 4 พ.ย.

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณามาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 68/69 เพิ่มเติม โดยให้ 3 หน่วยงาน คือ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามารับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร เป้าหมาย 3 ล้านตัน ในราคานำตลาด เพื่อช่วยพยุงราคาข้าวเปลือกช่วงนาปีที่กำลังจะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนพ.ย.นี้ ไม่ให้ราคาตกต่ำ

“การรับซื้อข้าว 3 หน่วยงาน แต่ละหน่วยงานจะรับซื้อตามศักยภาพของแต่ละหน่วยงาน โดยยืนยันว่าวิธีนี้ไม่ใช่เป็นการเปิดรับจำนำ หรือซื้อมาแล้วเก็บเพื่อรอเปิดประมูลล็อตใหญ่ แต่เป็นการซื้อมาขายไป เพราะมีลูกค้าที่จะจำหน่ายได้อยู่แล้ว เช่น กรมราชทัณฑ์ หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือการจำหน่ายในตลาดปกติ ส่วนวงเงินที่ใช้รับซื้อจะเป้นเท่าไร และเปิดรับซื้อตันละกี่บาท จะต้องรอ นบข.พิจารณาในรายละเอียด ขณะที่วงเงินประมาณจะเสนอแนวทางใช้เงินของหน่วยงาน รวมถึงวงเงินมาตรา 28 เพื่อเข้ามาสนับสนุนการรับซื้อ และค่าบริหารจัดการ”

ทั้งนี้ มาตรการนี้ เป็นมาตรการเพิ่มเติมจากที่ นบข. ได้เคยอนุมัติก่อนหน้านี้ คือ ให้สินเชื่อชะลอการขาย โดยเกษตรกรเก็บข้าวในยุ้งฉาง ได้ค่าฝากเก็บ 1,500 บาทต่อตัน เป้าหมาย 3 ล้านตัน ให้สินเชื่อรวบรวมข้าวสถาบันเกษตรกร 1.5 ล้านตัน ชดเชยดอกเบี้ยให้โรงสีเก็บสต๊อกข้าว 4 ล้านตัน นอกจากนี้ ยังมีแผนเร่งระบายข้าว โดยผลักดันการส่งออกข้าวรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีนปริมาณ 5 แสนตัน และกับสิงคโปร์ 1 แสนตัน ตลอดจนแผนสนับสนุนการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น เม็กซิโก และบังกลาเทศ เพื่อทวงตลาดข้าวไทยคืนมา ผลักดันใช้ปลายข้าวไปเป็นวัตถุดิบทำอาหารสัตว์ และสร้างมูลค่าเพิ่ม

สำหรับข้าวนาปี ปีการผลิต 68/69 มีปริมาณ 26.99 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 17.54 ล้านตันข้าวสาร ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว 6.05 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 3.9 ล้านตันข้าวสาร คิดเป็น 22% ของผลผลิตทั้งหมด คาดว่าจะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือน พ.ย.68 เป็นต้นไป โดยราคาข้าวปัจจุบัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,200-16,500 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี 8,200-8,700 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้า 6,100-6,800 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว 8,200-9,000 บาทต่อตัน ส่วนราคาส่งออกภาพรวมลดลง 40% จากปีที่แล้ว เนื่องจากมีผลผลิตทั่วโลกออกมามาก

นายวิทยากร กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการสุขกายสบายกระเป๋า ซึ่งช่วยค่าครองชีพให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อยาจากร้านขายยาข้างนอกโรงพยาบาลว่า กรมฯ ได้เลื่อนเปิดตัวโครงการออกไป จากเดิมกำหนดวันที่ 28 ต.ค.68 ไปเป็นวันที่ 4 พ.ย.68 เนื่องจากต้องรอเตรียมความพร้อมของรายละเอียดมาตรการให้สมบูรณ์เสียก่อน และจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงาน

ปัจจุบัน มีสมาชิกโรงพยาบาลเอกชนในสมาคมโรงพยาบาลเอกชน สนใจเข้าร่วมโครงการนี้ มากกว่า 300 แห่ง ใน 11 เครือ และยังได้เปิดลงทะเบียนร้านขายยาที่มีกว่า 3,305 แห่งเพื่อให้รองรับนโยบาย โดยหลังจากนั้นทุกโรงพยาบาลและร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ จะมีป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อใช้บริการได้อย่าวทั่วถึงต่อไป