ล่าสุด

ลิงค์ที่เป็นมิตร

เจาะไส้ในพิษภาษีทรัมป์ฟาด’เอสเอ็มอี’กลุ่มไหน พึ่งตลาดสหรัฐเท่าไร พร้อมแนะทางออก

2025-04-07     HaiPress

สสว.เจาะไส้ในพิษทรัมป์ขึ้นภาษีทั่วโลก ไทยโดนไป 36% ฟาด'เอสเอ็มอี'กลุ่มไหน พึ่งตลาดสหรัฐเท่าไร แล้วทางออกจะเป็นอย่างไร!!

แวดวงเศรษฐกิจข่าวใหญ่สะเทือนไปทั้งโลกหนีไม่พ้นคำประกาศกร้าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าในสหรัฐทุกประเภทกับประเทศที่ได้ดุลการค้า ของไทยถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีอัตราใหม่ 36% ส่วนสหภาพยุโรป 20 % จีน 34 % ญี่ปุ่น 24 % แอฟริกาใต้ 30 % ไต้หวัน 32 % อินเดีย 26 % กัมพูชา 49 % ลาว 48 % เวียดนาม 46 % เมียนมา 44 % อินโดนีเซีย 32 % มาเลเซีย 24 % ฟิลิปปินส์ 17 % สิงคโปร์ 10 % และไทย ที่ถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 37 %มีผลวันที่ 9 เม.ย.นี้


กลุ่มธุรกิจที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ กลุ่มเอสเอ็มอี ที่จะมีต้นทุนสูงขึ้นลดทอนขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้าลดลง และยังต้องตั้งรับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ที่จะไหลเข้ามาในไทยอีกจำนวนมาก

ถามว่า กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย พึ่งพาตลาดสหรัฐมากน้อยเพียงดู ลองไปดูข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า จากข้อมูลการส่งออกปี 67 พบว่า เอสเอ็มอีพึ่งพาตลาดสหรัฐสูงถึง 20 % ด้วยมูลค่า 7,634 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเอสเอ็มอีมีส่วนแบ่งของการส่งออกไทยไปสหรัฐที่ 14 % โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกของเอสเอ็มอีลำดับที่ 2 รองจากจีน

ขณะที่เอสเอ็มอีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 2,563 ล้านดอลลาร์ ทำให้เอสเอ็มอีเกินดุล 5,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงม.ค. – ก.พ. ปี 68 เอสเอ็มอียังส่งออกไปสหรัฐมูลค่ารวม 1,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 39.6% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งออกสำคัญ 5 ลำดับแรกได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับเฟอร์นิเจอร์ และพลาสติก คิดเป็นสัดส่วน 75 % ของ มูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอีไปยังสหรัฐทั้งหมด


สำหรับผลกระทบจากมาตรการขึ้นกำแพงภาษีครั้งนี้ สสว. ประมาณการว่ามูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอี ไปยังสหรัฐ ปี 2568 จะลดลง 1,128 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 38,300 ล้านบาท และอาจส่งผลให้ จีดีพี เอสเอ็มอี ปี 2568 ลดลง 0.2 % จากที่ สสว. ประมาณการการขยายตัวไว้ที่ 3.5 % โดยความรุนแรงของผลกระทบดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองของรัฐบาลไทย รวมทั้งมาตรการตอบโต้ ของประเทศคู่ค้าอื่น ๆ


ทั้งนี้ สสว. ได้วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอีในเบื้องต้นพบว่า มีสินค้า 12 กลุ่มหลัก ที่พึ่งพิงการส่งออกไปสหรัฐในระดับสูง ซึ่งเป็นการส่งออกสินค้ากลุ่มนั้นไปยังสหรัฐเป็นตลาดหลักเกินกว่า 10% และมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะกระทบกับเอสเอ็มอีประมาณ 3,700 ราย ดังนี้


1. กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เครื่องส่งวิทยุ กล้อง ถ่ายบันทึกภาพดิจิทัล และลวดเคเบิ้ล


-มูลค่าส่งออก : 2,792 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วน SME : 34%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 59%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 914 ราย


2. กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ได้แก่ พลอย และเครื่องประดับเพชรพลอยรูปพรรณ


-มูลค่าส่งออก: 758 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วน SME: 45 %


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 19 %


-จำนวนผู้ส่งออก 885 ราย


3. กลุ่มเครื่องจักรและส่วนประกอบ ได้แก่อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ ก๊อก วาล์ว ส่วนประกอบเครื่องยนต์อากาศยาน


-มูลค่าส่งออก : 466 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 25%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 52%


-จำนวนผู้ส่งออก SME : 156 ราย


4. กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โซฟา โคมไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง เฟอร์นิเจอร์การแพทย์


-มูลค่าการส่งออก : 432.15 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 45%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 68%


-จำนวนผู้ส่งออก SME : 400 ราย


5. ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า เช่น ข้อต่อ ลวดเกลียว สลิง ตะปู สะพานและชิ้นส่วน ประตูน้ำ เครื่องสุขภัณฑ์ ของใช้ในครัวและโต๊ะอาหาร


-มูลค่าการส่งออก : 181.07 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 24%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 31%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 422 ราย


6. ยานยนต์และชิ้นส่วน ได้แก่ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถพ่วงและกึ่งพ่วง


-มูลค่าการส่งออก : 116 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 8%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 21%


-จำนวนผู้ส่งออก SME : 138 ราย


7. ของปรุงแต่งทำจากพืชผักผลไม้ ได้แก่ น้ำผลไม้ ผลไม้ ผักผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม แยม


-มูลค่าการส่งออก : 73.97 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี: 10%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 14%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 293 ราย


8. อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม ได้แก่ สิ่งก่อสร้างทำด้วยอะลูมิเนียม ภาชนะอะลูมิเนียมสำหรับบรรจุก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว และของอื่น ๆ ทำด้วยอะลูมิเนียม


-มูลค่าการส่งออก : 68.23 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 55%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 53%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 74 ราย


9. เครื่องแต่งกายถักแบบนิตหรือแบบโครเชต์ ได้แก่ เสื้อกั๊ก เสื้อผ้าของเด็กเล็ก สูท เชิ้ต ถุงมือทุกชนิด เสื้อโอเวอร์โค้ตของบุรุษ ชุดวอร์ม ชุดสกี และชุดว่ายน้ำ


-มูลค่าการส่งออก : 50.67 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 17%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 41%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 190 ราย


10. ธัญพืช ได้แก่ ข้าว


-มูลค่าการส่งออก : 42.00 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 5%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 11%


-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 85 ราย


11. กลุ่มยางและผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่แผ่นยางปูพื้น อย่างกันกระแทก ท่อยางอุตสาหกรรม


-มูลค่าส่งออก 24 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 16%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 16%


-จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 121 ราย


12. กลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูป ได้แก่ สัตว์น้ำแปรรูป จำพวก กุ้ง หอย ปู


-มูลค่าส่งออก 14 ล้านเหรียญสหรัฐ


-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 7%


-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 49%


-จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 30 ราย


ทั้งนี้เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน โดยมุ่งเน้นการค้นหาตลาดใหม่และคู่ค้าในภูมิภาค รวมทั้งหาประโยชน์จากกฎเกณฑ์การค้าผ่านข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และใช้ฐานการผลิตจากประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา
กลับไปด้านบน
©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 อ่าวไทย [อ่าวไทย]      ติดต่อเรา   SiteMap